AI เองก็ไม่ได้ฉลาดมาตั้งแต่เกิด
- Carbonoi

- 17 ก.ย. 2567
- ยาว 1 นาที
AI เกิดมาจากไหน ใครเป็นคนให้กำเนิด?
จุดเริ่มต้นแนวคิดมาจากคำถามของ Alan Turing นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ในปี 1950
ที่ว่า Can Machine Think Like Human - เครื่องจักรจะคิดเหมือนมนุษย์ได้ไหม?
อย่างไรก็ดี คำว่า Artificial Intelligence ถูกตั้งขึ้นมาโดย John McCarthy นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกัน ที่ Dartmouth Conference ในปี 1956
AI เกิดจากความพยายามในการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้สามารถคิดและทำได้เหมือนมนุษย์
ซึ่งตอนแรก ๆ ก็ไม่ค่อยเก่ง แต่พัฒนาเรื่อยมา
จนกระทั่งยุคหลัง 1990 ที่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และการเก็บข้อมูลพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
และมีการคิดค้นวิธีให้เครื่องจักรเรียนรู้ด้วยตนเองจากข้อมูลที่ป้อนให้ หรือที่เรียกว่า Machine Learning ทำให้ AI เก่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด
#MachineLearning กลายเป็นจุดพลิกเกม เพิ่มเลเวลให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้เองได้โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมสั่งชัดเจน แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ การเรียนรู้แบบมีผู้สอน (Supervised Learning), การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน (Unsupervised Learning), การเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (Reinforcement Learning)
ในขณะที่มนุษย์เราเรียนบ้าง เล่นบ้าง กินขนมบ้าง ง่วงบ้าง คิดถึงแฟนบ้าง
AI คือนักเรียนชั้นยอดที่เรียนรู้ทุกวินาที เรียนผิดบ้างถูกบ้าง แต่ความขยันเรียนของ AI ก็ทำให้ถามอะไร ตอบได้! จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความฉลาด” ในที่สุด
เมื่อเรามีเพื่อนแสนฉลาดอยู่ตรงหน้าแล้ว คำถามถัดมาคือให้ AI เรียนเรื่องอะไรต่อดี?
เรื่องด่วนที่สุดในขณะนี้คือ สิ่งมีชีวิตบนโลกต้องหาทางเอาตัวรอด จากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ก่อนที่จะสูญพันธุ์ไปตลอดกาล
AI ในวันนี้จึงต้องมาเรียนรู้ไปพร้อมกับมนุษย์ เทรนให้เกิดความเข้าใจเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยพาเราวิ่งไปสู่ #เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ให้เร็วที่สุด
โอกาสหน้า Carbonoi จะเอาตัวอย่างเจ๋ง ๆ ของการใช้ AI เพื่อต่อสู่กับโลกร้อนมาเล่าให้ฟังกันต่อ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
—-
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจาก อ.พลอย
"มี Generative AI ที่คล้าย ChatGPT แต่ถูกเทรนเรื่อง Climate Change โดยเฉพาะ เจ้าตัวนี้ชื่อว่า chatnetzero.ai ทุกคำตอบจะมาพร้อมแหล่งอ้างอิง เอาไว้ช่วยตรวจจับพวกที่ชอบ greenwashing ได้ด้วย ลองเข้าไปคุยดูได้ค่ะ”




ความคิดเห็น