ระหว่าง หาเงินไม่ทัน กับ มีเงินแต่ใช้ไม่ได้ อะไรเป็นปัญหากว่ากัน?
- Carbonoi
- 2 พ.ย. 2567
- ยาว 1 นาที
เรื่องเงินเรื่องใหญ่ เงินไม่มา งานไม่เดิน 💵💵💵
ทั้งเรื่อง หาเงินเพิ่มครั้งมโหฬารและแก้ไขประสิทธิภาพการใช้เงิน เป็นสองปัญหาที่ทั่วโลกต้องมาถกกันในเวที COP29 เพื่อต่อสู้กับ Climate Change
โลกเราตั้งกองทุนการเงินสำหรับเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2010 ในกองทุน Green Climate Fund แม้จะระดมทุนได้มากกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังมีข้อจำกัดในนำเงินออกมาใช้เต็มไปหมด เช่น อนุมัติเงินล่าช้า ต้องจัดการกับความเห็นต่างทางการเมือง ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าจัดการความเสี่ยงเรื่องผลกระทบทางสังคมไม่ดีพอ และยังห่างไกลจากเป้าหมายที่ต้องการจัดสรรเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐทุกปีให้ประเทศกำลังพัฒนา
กองทุนนี้เน้นไปยังโครงการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) มากกว่าโครงการที่เน้นการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) นั่นทำให้โลกเรายังต้องการอีกก้อนใหญ่ในการเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติที่มาถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ความก้าวหน้าที่น่าพอใจเรื่องหนึ่งใน COP28 คือ Loss and Damage Fund ที่ได้คำมั่นสัญญาจากประเทศร่ำรวยเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ชดเชยผลกระทบที่ไม่อาจย้อนคืนจากความเสียหายทางสภาพอากาศให้ประเทศที่ยากจนและเปราะบางต่อ Climate Change มากที่สุด เช่น กลุ่มประเทศแอฟริกาใต้ ประเทศแคริบเบียน ซึ่งเผชิญภัยพิบัติจนประชาชนต้องอพยพย้ายถิ่น
เราจะเห็นเงินไหลลงกองทุนเหล่านี้เพิ่มขึ้นแน่นอน แต่หากเงินไม่ถูกใช้ในการแก้ไขและรับมือกับปัญหา สร้างภูมิคุ้มกันได้ทันเวลา ก็น่าเสียดายสุด ๆ
🎯 สิ่งที่ต้องรีบทำต่อคือ ตั้งเป้าหมาย Global Goal on Adapation พัฒนากลไกดำเนินงานเรื่อง Climate Adaptation วางกรอบการทำงานให้กระจายเงินผ่านกลไกนี้ไปสู่ประเทศที่ต้องการได้เร็วที่สุด รวมถึงเพิ่มการบริจาคเพราะเงินทุนที่โลกต้องการยังเกินกว่าข้อผูกพันในปัจจุบัน
ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศกำลังพัฒนาที่ขอรับเงินสนับสนุนเหล่านี้ได้ เราต้องมาช่วยกันวางโครงการที่ชัดเจน และมีการตรวจสอบติดตามผลอย่างโปร่งใส เพจคาร์บอนน้อยชวนทุกคนมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ไปด้วยกันค่ะ
—---------------
ติดตามคาร์บอนน้อยช่องทางอื่นได้ที่
Instagram: carbonoi.ai
Facebook: carbonoi
—---------------
ความคิดเห็น