top of page
ค้นหา

ใครมีไอเดีย Waste to Value ยกมือขึ้น มาชวนคิดชวนทำกันต่อ

  • รูปภาพนักเขียน: Carbonoi
    Carbonoi
  • 19 ต.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

ใครมีไอเดีย Waste to Value ยกมือขึ้น มาชวนคิดชวนทำกันต่อ


‘งานวิจัยขึ้นหิ้งต้องหมดไป’ เป็นหนึ่งในความตั้งใจของการเปิดเพจคาร์บอนน้อยค่ะ เราอยากแบ่งปันงานที่สามอาจารย์เคยทำกันมา แม้บางโครงการจบไปแล้ว แต่นวัตกรรมที่เกิดขึ้นเอาไปต่อยอดได้ เผื่อใครแวะมาอ่านแล้วมีไอเดีย/เห็นความเป็นไปได้/อยากเอาไปขยายผล ทักมาบอกกันจะดีใจมาก 

.

โพสต์นี้เอาโปรเจคของ อ.นิกมาแบ่งปันกัน

.

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ที่ อ.นิก-ศาสตราจารย์ ดร.ชนาธิป ผาริโน ทำงานวิจัยเพื่อร่วมขับเคลื่อน “โครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” กับกระทรวงมหาดไทย จัดการแยกขยะอาหารต้นทางจากครัวเรือน ไม่ให้ไปจบที่หลุมฝังกลบขนาดใหญ่ เพราะจะเกิดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีค่าศักยภาพทำให้โลกร้อน (Global Warming Potential: GWP) มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 28 เท่า 


..

#ความท้าทาย

ขยะเปียกมีเงื่อนไขเรื่องความชื้นที่ต้องจัดการให้เร็ว ต้องมีตัวช่วยให้คนจัดการได้ง่ายที่บ้าน โดยไม่ต้องลงแรงหรือเงินทุนมาก เช่น ใช้ถังพลาสติกตัดก้น ให้เศษอาหารสัมผัสกับแบคทีเรียในดิน ก็จะเกิดกระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติ เสริมด้วยการจัดการอย่างเป็นระบบ ด้วยฝาปิดถังเพื่อลดกลิ่นเหม็นรบกวน ลดจำนวนหนอนและแมลงวัน


ที่ผ่านมา อปท. ได้เข้าไปให้ความรู้และส่งเสริมการคัดแยกขยะเศษอาหาร โดยการทำถังขยะเปียกใช้ในครัวเรือน โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก นำร่อง 5 จังหวัดคือ ลำพูน ลพบุรี เลย สงขลา และยโสธร จนเป็นนโยบายผลักดันให้ดำเนินการได้ทุก อปท.ทั่วประเทศ

..#ต่อยอด

เมื่อมีขั้นตอนทางการวิจัยเข้ามาช่วยวัดอัตราการเกิดขยะเปียกของครัวเรือนและนำไปคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ อปท.จึง นำข้อมูลไปขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: TVER) 

ในต้นปี 2566 TGO รับรองปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก ครั้งแรกใน 4 จังหวัดคิดเป็นคาร์บอนเครดิต 3,140 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งคาร์บอนเครดิตจากโครงการนี้ได้มีภาคเอกชนรับซื้อไปเรียบร้อยแล้ว เงินรายได้จากการขายได้ส่งกลับคืนสู่ชุมชน 

ในครั้งที่ 2 เดือนมิถุนายน 2566 มีการรับรองคาร์บอนเครดิต 85,303 คาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า ปัจจุบัน TGO ได้ทำการรับรองปริมาณคาร์บอนเครดิต ครั้งที่ 3 จากโครงการทั้ง 76 จังหวัดจำนวน 277,951 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ผลผลอยได้อย่างสารปรับปรุงดิน ชุมชนนำไปใช้กับแปลงผัก โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ชาวบ้านปลูกผักทานเองและขายเป็นรายได้เสริมโดยไม่ต้องออกนอกชุมชน 

ส่วนที่เหลือจากการแยกขยะเปียก คือขยะแห้งที่ไม่ปนเปื้อนนำไปรีไซเคิลสร้างมูลค่าเพิ่มได้ บางแห่งตั้งธนาคารขยะ นำเงินมาจัดสรรเป็นสวัสดิการชุมชน ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายต่อยอดให้มีธนาคารขยะดำเนินการในทุก อปท.

.

.

อ.นิก อยากเสนอให้ภาคธุรกิจเข้ามาสร้างนวัตกรรมการจัดการขยะเปียกต้นทางให้มากขึ้น รองรับชุมชนเมืองหรือผู้อยู่อาศัยบนอาคารสูง เช่น

💡 ห้องครัวต้องการวิธีจัดการขยะอาหารที่ง่าย ประหยัดพลังงาน ต้นทุนต่ำ เช่น ในต่างประเทศ มีการติดตั้งเครื่องกำจัดอาหารติดกับซิงค์ล้างจานโดยตรง 

💡 ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร โรงแรม คาเฟ่ที่มีเศษอาหารเหลือทุกวัน แต่สู้ราคาเครื่องกำจัดเศษอาหารระดับอุตสาหกรรมหลักแสนถึงล้านบาทไม่ไหว ก็ต้องการนวัตกรรมฝีมือคนไทยมาช่วย

💡 สารบำรุงดินเป็นโอกาสใหม่ของธุรกิจที่มารองรับการซื้อปุ๋ยไปใช้ประโยชน์ต่อ 

💡 ขยะรีไซเคิลที่ชุมชนคัดแยกมาขายให้ธนาคารขยะ นอกจากส่งต่อให้ยี่ปั๊วซาปั๊ว สามารถมีธุรกิจที่มาคัดเลือกเฉพาะประเภทวัสดุเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อให้มากขึ้น 

ใครมีไอเดียหรืออยากลองแลกเปลี่ยนกัน ชวนคอมเมนท์ ทักแชทหรือส่งเมลมาพูดคุยกันได้ที่ info@carbonoi.com

ความคิดเห็น


ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในโพสต์นี้ได้แล้ว เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเจ้าของเว็บไซต์
bottom of page